By Digital Trader • Publish in Crypto 101 • Jul 28,2021 • 3 min read
Next article
Content Creator
Digital Trader ผมวิเคราะห์ตามหลักสถิติประยุกต์ หลักการของแท่งเทียน และประสบการณ์ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา
Blockchain as a Service เป็นบริการให้เช่า Blockchain Infrastructure โดยผู้เช่าไม่จำเป็นต้องพัฒนา Blockchain ใหม่ตั้งเเต่เริ่ม ไม่ต้องไปหา Server หรือสถานที่ด้วยตนเอง เพียงเเค่ชำระค่าบริการเพื่อใช้งาน Microsoft ก็สามารถเข้าถึงบริการนี้ได้ ตามจำนวน Transaction Node ต่อชั่วโมง, Validator Node ต่อชั่วโมง, จำนวนข้อมูลที่ต้องการจัดเก็บโดยคิดราคาเป็น Transaction
Digital Trader
Jul 07,2021
3 min
Mirror Protocol เป็น Decentralized Finance (DeFi) สร้างจากพื้นฐานของ Terra เพื่อสร้าง "Synthesis Asset" หรือสินทรัพย์สังเคราะห์ โดยใช้ชื่อเรียกว่า Mirrored Assets (mAssets)
โดย mAssets เป็น Token ที่เลียนแบบพฤติกรรมราคาจากสินทรัพย์ที่อ้างอิง เช่น หุ้น, Cryptocurrency สกุลเงินอื่น, สินค้าโภคภัณฑ์ เป็นต้น ข้อดีของ mAssets คือไม่ต้องถือหุ้นหรือสินทรัพย์เหล่านั้นเอง เพราะด้วยข้อจำกัดเวลาเปิด และปิดของตลาดหลักทรัพย์บางประเทศหรือการใช้จำนวนเงินขั้นต่ำในการซื้อหุ้นเหล่านั้นแพงจนเกินไป ทำให้ไม่สามารถที่จะทำการลงทุนในหุ้นหรือทรัพย์สินเหล่านั้นได้ แต่ mAssets บน Mirror Protocol ที่เลียนแบบพฤติกรรมราคาสินทรัพย์นั้นทำให้เราสามารถทลายข้อจำกัดเรื่องเวลาในการซื้อขายรวมไปถึงการใช้จำนวนเงินในการลงทุนที่ต่ำลงอีกด้วย
อีกทั้ง Mirror Protocol กลายเป็นหนึ่งในโครงการ DeFi ที่ทันสมัยที่สุดหลังจากเปิดตัวในเดือนธันวาคม 2020 และในเดือนพฤษภาคม 2021 โครงการก็มียอดสะสมของเงินที่ถูกล็อค (TVL) มากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ และปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1.79 พันล้านดอลลาร์
ตัวอย่าง mAssets บน Mirror Protocol เช่น Synthesis Asset ของหุ้น Tesla เป็น mTSLA, Synthesis Asset ของหุ้น Microsoft เป็น mMSFT เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันจะมีแต่หุ้นสหรัฐเท่านั้น
การ Mint เหรียญ Mirrored Assets
Mint คือการวางหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อเเลกกับเหรียญ ซึ่งทรัพย์สินในที่นี้คือ Synthesis Asset ของหุ้นสหรัฐ ใน Mirror Protocol นั่นเอง โดยการเอา TerraUSD (UST) ที่เป็น Stablecoin ไปค้ำประกัน เพื่อ Mint Mirrored Assets ออกมา โดยการนำ UST ไปคำประกันหุ้นแต่ะละตัวนั้นจะมีอัตราส่วนในการค้ำประกัน (Collateral Ratio) ที่ต่างกัน ตัวอย่างเช่น หุ้น Tesla (TSLA) ราคา $650 ต่อ 1 หุ้น มีอัตราส่วนในการค้ำประกันอยู่ที่ 200% หากเราต้องการจะ Mint mTSLA 1 เหรียญ เราต้องเตรียม UST ประมาณ 1,300 เหรียญ เพื่อ Mint mTSLA ซึ่งหลักการของการ Mint และการค้ำประกันนั้นจะมีลักษณะที่คล้ายกับการ Short หรือ Long ในหุ้น โดยหากเราคาดการณ์ว่าราคาหุ้น TSLA จะเกิดการปรับตัวลง ให้ทำการ Mint mTSLA มาขาย และเมื่อราคาหุ้น TSLA ปรับตัวลงจริง ค่อยมาซื้อ mTSLA คืน จะทำให้เราสามารถทำกำไรได้จากส่วนต่างนั่นเอง
สามารถทำการซื้อขายเก็งกำไรได้หรือไม่ ?
เราสามารถทำการซื้อขายเพื่อเก็งกำไรราคาหุ้นบน Mirror Protocol ได้โดยใช้ UST ซื้อ mAssets และนำมาขายในตอนที่ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น โดยเราสามารถซื้อหุ้นแบบ “เศษหุ้น” ได้ จึงทำให้นักลงทุนรายย่อยเข้ามาลงทุนได้ง่าย เพราะมีต้นทุนในการลงทุนที่ต่ำนั่นเอง
การฟาร์มบน Mirror Protocol
สามารถฟาร์มได้ทั้ง Terra Chain, Binance Smart Chian และ Ethereum Chain เหมือนฟาร์บน DeFi ทั่วไป แต่เปลี่ยนจากการฟาร์มคู่ Cryptocurrency - Cryptocurrency เป็น Cryptocurrency - หุ้น (mAsset) เช่น mTSLA - UST, mAAPL - UST
ทำไมเป็น Synthesis Asset ไม่ใช่ Token อ้างอิงราคา
เพราะ Synthesis Asset ไม่ส่งผลกับราคาหุ้นจริงๆ เป็นเพียงการเลียนแบบพฤติกรรม และราคาของหุ้นนั้นๆ ต่างจาก Token ที่อ้างอิงราคาหุ้นจริง เช่น Token ที่อ้างอิงราคาหุ้น Facebook ซึ่งหากมีนักลงทุนทำการซื้อ Token ทางบริษัท หรือ Centralized Exchange (CEX) ที่ออก Token เหล่านั้นจะต้องไปทำการซื้อหุ้น Facebook จากตลาดหลักทรัพย์มาเก็บไว้เพื่อทำการออก Token ที่อ้างอิงราคาหุ้น Facebook นั่นเอง
แต่การทำ Token หุ้นนั้น จะส่งผลต่อ Financial Sector เป็นอย่างมาก เพราะส่งผลต่อราคา และปริมาณการซื้อขายบนตลาดหุ้นจริง ซึ่งจะส่งผลต่อเสถียรภาพของราคาหุ้น ทำให้หน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์มักมีคำสั่งให้ตรวจสอบ Token ชนิดนี้อยู่บ่อยครั้ง และอาจมีการสั่งห้ามซื้อขายในอนาคตได้ Synthesis Asset จึงอาจเป็นคำตอบที่ดีกว่าในการซื้อขายของผู้ต้องการจะลงทุนในหุ้นต่างประเทศด้วยต้นทุนที่ไม่สูงมากนั่นเอง