เขียนโดย Digital Trader • หมวดหมู่ คู่มือการเทรด • 30 ก.ค. 2564 • เวลาอ่าน 3 นาที
การเทรดคริปโตนั้นเทรดเดอร์เเต่ละคนก็จะมีเทคนิคในการหาจุด ซื้อ-ขาย ที่เเตกต่างกันไป ซึ่งเเต่ละเทคนิคนั้นก็มีความเหมาะสมในการ ซื้อ-ขาย ที่เเตกต่างกัน บางคนก็ใช้วิธีการวิเคราะห์จากเเท่งเทียนตามแพทเทิร์นต่างๆ บางคนมักเลือกที่จะใช้ Indicator เป็นเครื่องมือช่วยทุ่นเเรงในการหาจุดทำกำไรจากการเทรด ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับการวิเคราะห์ Indicator ที่จะช่วยให้เราหาจุดเข้าซื้อ-ขายในช่วงที่ตลาดเกิดการ Sideway ได้เป็นอย่างดีนั่นก็คือ Rate of Change (ROC)
Rate of Change คืออะไร ?
Rate of Change หรือ (ROC) เป็น Indicator ประเภท Momentum ที่หาอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาเป็นเปอร์เซ็นต์ในระยะเวลาที่เรากำหนด สามารถประยุกต์ใช้งานในการเทรดได้หลากหลายโดยที่ค่าของ Rate of Change มีวิธีการคำนวนคือ
Rate of Change = [(ราคาปิดเเท่งเทียนวันนี้ – ราคาปิดเเท่งเทียนจำนวน n วันก่อนหน้า) / (ราคาปิดเเท่งเทียนวันนี้)] * 100
ซึ่งโดยปกติเเล้ว Rate of Change นั้นจะใช้กับการเทรดหุ้น และเราสามารถประยุกต์ใช้ Rate of Change ในการเทรดคริปโตได้ด้วยการเทรดตามเทรนด์ในระยะยาว
เราสามารถใช้ Rate of Change ในการเทรดคริปโตได้ 3 วิธีดังนี้
1.ใช้ Rate of Change ดู Divergence
เนื่องจาก Indicator ประเภท Momentum จะมีปรากฏการณ์ที่ Indicator ให้ข้อมูลที่ไม่สอดคล้องกับการเคลื่อนที่ของกราฟ เช่น กราฟปรับตัวสูงขึ้นเเต่ Rate of Change กลับปรับตัวต่ำลงมา สิ่งนี้จะเป็นตัวบ่งบอกว่าเเนวโน้มหรือเทรนด์นั้นๆ ไม่มีความน่าเชื่อถือเเละมีโอกาสที่กราฟจะกลับตัว
2. ใช้ Rate of Change ดูเทรนด์
เมื่อ
ROC > 0 = เทรนด์ขาขึ้น
ROC < 0 = เทรนด์ขาลง
เพราะระยะเวลาที่ Rate of Change ใช้คำนวนมีหน่วยเป็นวัน หาก Rate of Change มีค่ามากกว่า 0 เเสดงว่าในช่วงระยะเวลานั้นๆ ราคามีอัตราปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในทางกลับกันหาก Rate of Change มีค่าน้อยกว่า 0 เเสดงว่าในช่วงระยะเวลานั้นๆ ราคามีอัตราปรับตัวต่ำลงอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
3. ใช้ Rate of Change ดู Overbought/Oversold
เนื่องจาก Rate of Change นั้นไม่มีค่ามาตรฐานเหมือน Relative Strength Index (RSI) เเละสกุลเงินดิจิทัลนั้นมีอัตราการปรับตัวเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ค่อนข้างต่างจากหุ้น หลักการตีเส้น Overbought/Oversold นั้น โดยให้อิงจากการตีเส้นเเนวรับเเนวต้านเป็นหลัก
สรุปเเล้วเราสามารถใช้ Rate of Change ในการเทรดคริป โดยจะใช้ในการดู Overbought/Oversold เพื่อหาจุดเข้าซื้อ-ขาย โดย Rate of Change นั้นเป็น Indicator ประเภท Momentum จึงทำให้ได้เปรียบในการหาจังหวะเข้าซื้อขายในช่วงที่ราคามีการเคลื่อนที่เป็น Sideway โดย Rate of Change มีหน่วยในการคำนวนเป็นวันจึงเหมาะกับการเทรดคริปโตเเบบตามเทรนด์ในระยะยาวมากกว่าการเทรดคริปโตตามเทรนด์ในระยะสั้นนั่นเอง
บทความถัดไป
ผู้เขียน
Mirror Protocol : หุ้น x Cryptocurrency
Mirror Protocol เป็น Decentralized Finance (DeFi) สร้างจากพื้นฐานของ Terra เพื่อสร้าง "Synthesis Asset" หรือสินทรัพย์สังเคราะห์ โดยใช้ชื่อเรียกว่า Mirrored Assets (mAssets)
ดิจิตอล เทรดเดอร์
28 ก.ค. 2564
3 นาที