Internet Computer อีกขั้นของระบบ Internet ไร้ศูนย์กลาง

ก่อนทำความรู้จักเหรียญ ICP ควรทำความรู้จัก Generation ของ Blockchain กันก่อน โดยในปัจจุบัน Blockchain นั้นถูกแบ่งออกเป็น 3 Generation / Invention หลักๆ ได้แก่

1st Invention คือ Cryptocurrency สกุลต่างๆ
2nd Invention คือ Smart Contract (DeFi) ที่ถูกใช้งานกันอย่างแพร่หลาย
3rd Invention คือ Infinite Blockchain (Internet Blockchain)

Internet Computer คืออะไร

Internet Computer Protocol (ICP) เป็น 3rd Invention Blockchain มีแนวคิดยิ่งใหญ่ในการสร้าง ICP Protocol มาแทนที่ระบบ Internet ทั้งหมดที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน เป็น “Internet แบบกระจายอำนาจ" ซึ่งถือเป็นแนวคิดที่ยิ่งใหญ่จนทำให้หลายคนอาจมองว่า ICP นั้นเป็นเหรียญที่ขายฝัน แต่ในทางกลับกัน มันกลับเป็น Concept ในการพัฒนาจะเข้ามาพัฒนาระบบ Internet ดั้งเดิม จาก IP สู่ ICP ซึ่งนำไปสู่ Public Cyberspace ได้ โดยสามารถแก้ปัญหาการผูกขาด Internet ของเหล่าบริษัท Big Tech ในสหรัฐได้

Concept ของ Internet Computer

ด้วยแนวคิดที่ให้ Software นั้นสามารถทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ทั่วโลก ไม่จำกัดเพียงเครื่องใดเครื่องหนึ่ง หรือ Server เพียงที่เดียว โดยการนำระบบ Blockchain เข้ามาช่วยในการจัดเก็บข้อมูล ซึ่งทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่อง Server ล่ม หรือถูก Hack จึงต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยอีกด้วย

โดย ICP ตั้งเป้าเป็น Host Website ที่ไม่คิดค่าบริการ Holdings ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้นักพัฒนาสามารถสร้าง Website และ Application มาทำงานบน Smart Contract (ไม่ใช่บน Cloud ) ได้ โดยสามารถใช้งานได้ด้วยความเร็วที่สูงขึ้น จากครึ่งชั่วโมงเหลือเพียงไม่กี่วินาที ทำให้ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาระบบ IT แบบเก่าอีกต่อไป

แนวคิดดี แล้วจะทำได้อย่างไร?

Internet Computer จะสร้างจากข้อมูล Data Center ทั่วโลก โดยแต่ละ Data Center นั้นจะมี Nodes จำนวนมากเชื่อมต่อกันเป็น Subnet ซึ่งเป็นการทำงานแบบ Proof-of-Stake ที่มีความคล้ายคลึงกับ Parachain บน Polkadot โดยมี DApp ทำงานอยู่ภายใน Subnet นั้นๆ และแต่ละ Nodes ย่อยใน Subnet ก็สามารถสร้าง Block ขึ้นมาจากการ Stake เหรียญ ICP ได้อีกด้วย

โดย DApp ใน Internet Computer จะมี "Canisters" ในการแบ่ง Workload ของการประมวลผลส่งไปให้ Data Center อื่นๆทั่วโลกเพื่อช่วยกันทำงาน และนำข้อมูลกลับมารวมกันเมื่อประมวลผลสำเร็จ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆและได้การประมวลผลข้อมูลได้รวดเร็วกว่าการใช้อินเตอร์เน็ตแบบปัจจุบันนั่นเอง อีกทั้ง ICP จะให้ Internet Identity เพื่อใช้งาน DApp ใน ICP หรือ ใช้ยืนยันในการทำธุรกรรม โดย Internet Identity นี้ยังสามารถจับคู่กับ โทรศัพท์ หรือเก็บใน USB Key ได้อีกด้วย

ICP Token

ICP Token นั้นจะไม่มี Maximum Supply โดย Supply จะเพิ่มมาจากการสร้าง Block และจะถูกลดจำนวน Supply ลงด้วยการ Burn ทิ้ง โดย ICP Token สามารถนำไปใช้ได้ดังนี้

• ใช้เป็น Governance Token
• ใช้จ่ายค่า Canister Fee เพื่อรัน Application หรือ Website บน Internet Computer
• Network Reward สำหรับผู้มีส่วนร่วมในการโหวต และ ให้ Data Center สำหรับการประมวลผล

การจะจ่ายค่า Canisters Fee ต้องเปลี่ยน ICP Token เป็น Cycle ก่อน โดยการเอา ICP Token เปลี่ยนเป็น Cycle ในอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่เท่ากัน ได้ตั้งเเต่ 1 ICP Token = 1 Cycle จนถึง 1 ล้านล้าน Cycles (อัตราแลกเปลี่ยนจะขึ้นกับความต้องการในช่วงนั้น) เพื่อเอา Cycle ไปจ่ายค่า Fee แต่ถ้าเราได้ทำการแลก Cycle มาเกินไปสามารถนำเปลี่ยนเป็น Stable coin ใน DEX บน Internet Computer ได้

โดยสาเหตุที่ต้องทำการแลก ICP Token เป็น Cycle ก่อนที่จะใช้ในการจ่ายค่าธรรมเนียมให้ Data Center นั้น ก็เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา ICP Token ด้วยการ Fix ค่าธรรมเนียมในระบบให้เป็น Cycle แล้วไปปรับอัตราแลกเปลี่ยนของ ICP Token: Cycle แทนเพื่อเป็นการประกันให้รายรับของ Data Center/Canisters ให้มั่นคงนั่นเอง

สรุป

ICP ถือเป็นเหรียญที่มีแนวคิดที่สำคัญอย่างมาก ซึ่งไม่ได้ส่งผลแค่ในตลาดคริปโตเคอเรนซี่เพียงอย่างเดียว แต่หาก ICP เกิดความนิยม และเกิดการพัฒนาที่มากขึ้น อาจส่งผลให้เกิดการพลิกโฉมการใช้งานและการพัฒนาระบบ Internet ครั้งใหญ่เลยก็เป็นได้ ซึ่งทำให้ต้องจับตามมองการพัฒนาระบบต่างๆของ ICP อย่างใกล้ชิด