ประกาศ แนวทางการป้องกันการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล

ประกาศ แนวทางการป้องกันการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล

เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขในพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561  และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งระบุให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล มีระบบงานในการเฝ้าระวัง และตรวจสอบความผิดปกติของสภาพตลาด เพื่อป้องกันและรับมือการส่งคำสั่งซื้อขายที่ไม่เป็นธรรม (Improper Trading) ในสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีการซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ในการนี้บริษัทจึงได้จัดทำประกาศฉบับนี้ เพื่อชี้แจงแนวทางปฏิบัติ และการดำเนินการในกรณีที่มีความผิดปกติของสภาพตลาดที่เกิดจากการส่งคำสั่งการซื้อ-ขายที่ไม่เป็นธรรม

แนวทางการดำเนินการเมื่อมีเหตุการณ์การการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล

เพื่อควบคุมความเสี่ยง ลดผลกระทบ และปกป้องผลประโยชน์ของลูกค้า บริษัทซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล บริษัทจึงจัดทำแนวทางการดำเนินการเมื่อมีเหตุการณ์การการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลขึ้น โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

1. เมื่อบริษัท พิจารณา จากขั้นตอน และ ระบบตรวจสอบสภาพตลาด แล้วพบว่าเกิดการกระทำที่ไม่เป็นธรรมใน ตลาดซื้อ-ขาย (Improper Trading)ทางบริษัทจะทำการติดต่อเจ้าของบัญชีดังกล่าวเพื่อขอคำชี้แจงถึงสาเหตุของ การกระทำที่ไม่เป็นธรรมดังกล่าว

2. เจ้าของบัญชีจะต้องชี้แจงเหตุผลในการส่งคำสั่งซื้อขายดังกล่าวภายในยี่สิบสี่ (24) ชั่วโมง เพื่อให้ทางบริษัท พิจารณา  ในกรณีที่บริษัทไม่ได้รับคำชี้แจงเหตุผลภายในระยะเวลาที่กำหนดดังกล่าว และ/ หรือ คำชี้แจง ไม่สมเหตุสมผลกับการกระทำอันไม่เป็นธรรม  ทางบริษัทจะดำเนินการพิจารณาบทลงโทษ อันมาจาก การกระทำอันไม่เป็นธรรมในทันที

3. บริษัทจะพิจารณาบังคับใช้บทลงโทษ อันมาจากการกระทำอันไม่เป็นธรรม ในแต่ละระดับ โดยพิจารณาจากเจตนาของผู้ส่งคำสั่งซื้อขาย ผลกระทบที่เกิดขึ้น และรวมถึงกระทำพฤติกรรมซ้ำเดิม ซึ่งบทลงโทษอันมาจากการกระทำอันไม่เป็นธรรม แบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้ดังนี้

3.1 การส่งเอกสารตักเตือน

ในกรณีที่ไม่เป็นความผิดร้ายแรง และ/หรือ ส่งผลกระทบอย่างมีนัยยะสำคัญ ต่อนักลงทุนรายอื่น และ/หรือกระดานซื้อขาย บริษัทจะส่งเอกสารตักเตือน เพื่อตักเตือนและขอความร่วมมือในการไม่ส่งคำสั่ง ที่ขัดต่อหลักเกณฑ์ของระบบการเฝ้าระวัง หรือตรวจสอบสภาพตลาด ของบริษัท

3.2 การระงับบัญชีการซื้อ-ขาย สินทรัพย์ดิจิทัล

ในกรณีที่บริษัทมีการส่งเอกสารตักเตือนตามที่ระบุเอาไว้ในข้อ 3.1 แล้ว บริษัทยังพบว่าเกิดการกระทำ ความผิดซ้ำ และ/หรือคณะทำงานการตรวจสอบสภาพตลาด มีความเห็นว่าจำเป็นต้องระงับพฤติกรรม ดังกล่าว บัญชีซื้อ-ขาย สินทรัพย์ดิจิทัล ดังกล่าวจะถูกระงับการซื้อขายชั่วคราว เป็นระยะเวลาเจ็ด (7) วัน

3.3 การยุติความสัมพันธ์

: ในกรณีที่มีระงับการซื้อขายชั่วคราวเป็นเวลาเจ็ด (7) วันตามที่ระบุเอาไว้ในข้อ 3.2 แล้ว บัญชีดังกล่าว ยังมีการกระทำผิดขึ้นอีก และ/หรือ รูปแบบพฤติกรรมการส่งคำสั่งทำไม่เป็นธรรมได้ส่งผลกระทบ ต่อนักลงทุนอื่น และ/หรือ กระดานซื้อขาย อย่างมีนัยยะสำคัญ  บริษัทจะพิจารณายุติความสัมพันธ์ โดยการปิดบัญชีซื้อ-ขาย สินทรัพย์ดิจิทัล ดังกล่าวและจะไม่อนุญาตให้เจ้าของบัญชีดังกล่าว สมัครสมาชิกใหม่ ตามระยะเวลาที่บริษัทกำหนด

เจ้าของบัญชีที่ได้รับบทลงโทษแต่ละระดับ จะได้รับการบอกกล่าวผ่านทางอีเมลที่ใช้ในการเปิดบัญชีซื้อ-ขาย สินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อแจ้งให้ทราบถึงสาเหตุของการลงโทษ และบทลงโทษที่ได้รับจากการกระทำอันไม่เป็นธรรม ภายในเจ็ด (7) วัน นับตั้งแต่มาตรการดังกล่าวถูกปรับ ทั้งนี้เจ้าของบัญชีที่ได้รับบทลงโทษมีความประสงค์ที่จะสอบถามรายละเอียด หรือโต้แย้งคำสั่งดังกล่าวของบริษัท จะต้องติดต่อบริษัทภายใน ยี่สิบสี่ (24) ชั่วโมงนับแต่ได้รับคำบอกกล่าวทางอีเมล

ทั้งนี้ ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์การการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และ บริษัท ได้รับความเสียหายจากพฤติกรรมดังกล่าว (ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม) บริษัท ขอสงวนสิทธิที่จะดำเนินการทางกฎหมายในการเรียกร้องค่าเสียหายต่างๆ จากเจ้าของบัญชีดังกล่าวต่อไป

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและให้ความร่วมมือ ทั้งนี้ ประกาศฉบับนี้ จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน 2567 เป็นต้นไป

ตัวอย่างพฤติกรรมที่เข้าข่ายการส่งคำสั่งซื้อขายที่ไม่เป็นธรรม

• ปริมาณการสร้าง/ยกเลิกคำสั่งซื้อขายที่มากผิดปกติในเวลาใกล้เคียงกัน (Trading Activities Spike Detection) เช่น การสร้างคำสั่งซื้อจำนวนมาก และยกเลิกคำสั่งซื้อทันที
• การซื้อขายกับบุคคลเดียวกันหรือกลุ่มคนเดียวกันซ้ำๆ หลายครั้ง เช่น มีการซื้อขายระหว่างสอง (2) บัญชีหลายๆ ครั้ง ซึ่งเจ้าของบัญชีเป็นบุคคล และ/หรือกลุ่มบุคคลเดียวกัน (Wash Trade) โดยถือเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากการกระทำดังกล่าว รวมถึงมีวัตถุประสงค์เพื่ออำพรางให้นักลงทุนอื่นๆ เกิดความเข้าใจผิดในส่วนของราคา หรือปริมาณการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นๆ เช่น เสนอซื้อในราคา สูงกว่า/ต่ำกว่า หรือเท่ากับราคาที่ตนเองได้เสนอขาย โดยจับคู่กับบุคคล หรือกลุ่มบุคคล หรือตนเองอย่าง มีนัยสำคัญ
• การสร้างคำสั่งซื้อขายที่ราคาสูง/ต่ำกว่าปกติอย่างต่อเนื่อง เช่น มีคำสั่งขายที่มีราคาต่ำกว่าราคาซื้อขายล่าสุด โดยมีการสร้างคำสั่งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเข้าข่ายการชี้นำ หรือผลักดันราคา โดยมีวัตถุประสงค์ในการควบคุม ราคาสินทรัพย์ดิจิทัล และทำให้นักลงทุนอื่นๆ เกิดความเข้าใจผิดในส่วนของราคาที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ในช่วงเวลาใด เวลาหนึ่ง
• การกวาดซื้อขายออเดอร์เสนอซื้อขายในตลาด เช่น มีการกวาดออเดอร์เสนอขายทำให้ราคาในตลาดสูงขึ้น อย่างมีนัยยะสำคัญ โดยการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
• การสร้างคำสั่งซื้อขายในราคาเดียวกันหลายคำสั่ง ในขณะที่สามารถสั่งซื้อได้ในการสร้างคำสั่งครั้งเดียว เพื่อควบคุมราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงซึ่งเข้าข่ายการพยุงราคา โดยราคาของสินทรัพย์ ดิจิทัลจะไม่เกิดความเปลี่ยนแปลงต่ำลง หรือสูงขึ้น หรือทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่ามีความต้องการซื้อ/ขาย ในสินทรัพย์นั้นๆ
• พฤติกรรมการใช้ข้อมูลภายในองค์กร หรือความสัมพันธ์ส่วนบุคคล เพื่อหาผลประโยชน์จากข้อมูลดังกล่าว ในการประกอบการตัดสินใจซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นๆ เช่น การเก็งกำไร หรือกักตุนสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าว (Insider Trading)

โดยพฤติกรรมที่เข้าข่ายการส่งคำสั่งซื้อขายข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างพฤติกรรมที่พิจารณาเบื้องต้นได้ว่าไม่เป็นธรรมหรือ อาจส่งผลกระทบต่อผู้ลงทุนรายอื่นในศูนย์ซื้อขาย หากบริษัทตรวจสอบพบการส่งคำสั่งซื้อขาย ในรูปแบบอื่นที่อาจมี เจตนาให้เกิดความผิดปกติของสภาพตลาดหรือความผิดปกติของคำสั่ง ยังอาจพิจารณาได้ว่าเป็นความผิดตามพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องได้