Distributed Ledger Technology เทคโนโลยีต้นแบบ Blockchain

Distributed Ledger Technology เทคโนโลยีต้นแบบ Blockchain

Distributed Ledger Technology คืออะไร?

Distributed Ledger Technology หรือ DLT เป็น Protocol ที่ช่วยรักษาความปลอดภัยในการทำงานของเครือข่ายแบบกระจายศูนย์ โดยตัดความจำเป็นของตัวกลางในการจัดเก็บหรือตรวจสอบข้อมูล DLT สามารถจัดเก็บ ป้องกัน และตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดยใช้วิธี Cryptography (การเข้ารหัส) โดยเจ้าของข้อมูลสามารถเข้าถึงข้อมูลบน DLT ได้ด้วย Key และ Cryptographic Signature และข้อมูลที่เก็บไว้สามารถเข้าถึงได้โดยหลายบุคคล อนุญาตให้มี "พยาน" ในการทำธุรกรรม ผู้เข้าร่วม DLT ในเเต่ละ Node ของ Network สามารถเข้าถึงสำเนาข้อมูลได้เหมือนๆ กัน การเปลี่ยนแปลงใดๆ บนข้อมูลจะมีการคัดลอก และบันทึกพร้อมกับส่งให้ผู้เข้าร่วมทุกคนที่เป็นพยาน แต่ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลเดิมได้ ทั้งนี้ Blockchain ที่เราคุ้นเคยกันดี ก็เป็นหนึ่งใน DLT เช่นกัน

การประยุกต์ใช้ในองค์กร

หลายองค์กรมีการจัดการกับข้อมูลมากมายและเก็บข้อมูลไว้หลายๆ ที่ แต่ละที่จะเชื่อมกับระบบกลาง (Central System) การอัพเดตข้อมูลต้องรอตามลำดับ ล่าช้า และเสี่ยงต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ DLT เข้ามาแก้ปัญหานี้ด้วยโครงสร้างพื้นฐานของเทคโนโลยี / Protocol ที่อนุญาตให้เข้าถึง ตรวจสอบ บันทึกการอัพเดต และข้อมูลนั้นไม่เปลี่ยนแปลงแม้จะถูกส่งต่อไปยังที่ต่างๆ ทั่ว Network  ถ้าจะโจมตีต้องโจมตีทุกเครื่องใน Network พร้อมกัน และสามารถอัพเดตข้อมูลได้พร้อมกัน พร้อมเเชร์บันทึก ทำให้กระบวนการทั้งหมดรวดเร็ว ประหยัด ลดความไร้ประสิทธิภาพของงาน ลด Human Error ทำงานได้ตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมง

ตัวอย่างโครงการ DLT ในประเทศไทย

โครงการอินทนนท์ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยร่วมกับสถาบันการเงิน 8 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารธนชาติ, HSBC, ธนาคารกรุงไทย, Standard Chartered, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกรุงศรี  ร่วมมือกันพัฒนาระบบชำระเงินต้นแบบระหว่างสถาบันการเงินด้วยกัน โดยใช้สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC)

โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ ดังนี้

• ระยะแรก สร้างระบบชำระเงินต้นแบบโดยใช้ DLT เปลี่ยนเงินฝากของสถาบันการเงินต่างๆเป็น CBDC เพื่อใช้ทำธุรกรรมระหว่างกัน
• ระยะที่สอง พัฒนาขีดความสามารถของระบบชำระเงินต้นแบบให้ใช้งานได้ในกิจกรรมที่ซับซ้อน เปลี่ยน Bond เป็น Token เพื่อส่งมอบเเละชำระค่า Bond โดยไม่ผ่านตัวกลาง
• ระยะที่สาม ออกแบบการชำระเงินระหว่างประเทศ ร่วมกับธนาคารฮ่องกง (HKMA) เพื่อลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพให้ชำระเงินได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังทดลองใช้งานกับภาคเอกชน โดยการจัดซื้อจัดจ้างระหว่าง SCG และคู่ค้า

ข้อดีหลักๆของ DLT คือ ไม่จำเป็นต้องมีตัวกลางในการจัดเก็บข้อมูล ปลอดภัย เมื่อเครื่องใดเครื่องหนึ่งเสีย ระบบจะไม่ล่มทั้งหมดเหมือน Server

ส่วนข้อเสียคงเป็นเรื่องของเทคโนโลยีที่ยังใหม่ มีผู้เชี่ยวชาญจริงๆ น้อย และยังต้องมีการทดสอบระบบหลายๆ อย่างก่อนใช้งาน

DLT มีศักยภาพมากพอที่จะเปลี่ยนการทำงานของรัฐบาล, สถาบันการเงิน ตลอดจนองค์กรต่างๆ ให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้น ตั้งแต่การตรวจสอบบัญชี จัดเก็บภาษี ออกหนังสือเดินทาง การทำธุรกรรม การจ่ายเงินจากภาครัฐ ลดปัญหาธุรกิจและความล่าช้า นอกจากนี้ เทคโนโลยี DLT ก็กำลังเริ่มกระจายไปยังอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่องอีกด้วย