2 เหตุการณ์สำคัญต่อตลาดคริปโตเคอร์เรนซี ที่ชาวคริปโตเนียนต้องรู้

ในตลาดสินทรัพย์ต่าง ๆ มักมีการเคลื่อนที่ของราคาเสมือนกับฤดูของมัน บางช่วงเวลาก็ซึมเงียบและลง หรือบางช่วงเวลาก็ขึ้นจนชุมชนนักลงทุนต้องกล่าวถึงเช่นหุ้น จากศัพท์นิยมคำว่า “Sell in May and Go Away” หรือก็คือให้ขายหุ้นออกไปก่อนในช่วงเดือนพฤษภาคมเนื่องจาก ในเดือนนี้หุ้นขนาดใหญ่มักจะเริ่มทยอยจ่ายเงินปันผลประจำปี ทำให้ราคาหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวลง และนักลงทุนมักจะเริ่มกลับเข้าตลาดหุ้นอีกครั้งในช่วงปลายปี ซึ่งก็จะส่งผลให้ราคาปรับตัวขึ้น

ทีนี้กล่าวถึงตลาดคริปโตบ้างว่าฤดูของตลาดนี้มักเริ่มในช่วงไหน ? จากสถิติที่ผ่านมาจะขอแบ่งเป็น 2 เหตุการณ์สำคัญ

1. การ Halving Bitcoin ถือเป็นอีเวนต์หลักของตลาดนี้เลย และเป็นที่รู้กันว่าการ Halving นั้นคือการลดรางวัลจากการขุดโดยจะเกิดขึ้นทุก ๆ 4 ปี ซึ่งใน 4 ปี นั้นพฤติกรรมของราคานั้นมักจะวิ่งคล้ายกันมาตลอด โดยจะขออธิบายตามภาพดังนี้

• [เส้นแนวตั้งสีน้ำเงิน] เป็นช่วงเวลาโดยประมาณของการ Halving
• [กรอบสีเขียว 1] ช่วงผ่านการ Halving ถือเป็น Wave ใหญ่ของขาขึ้นก่อนจบเทรนด์
• [กรอบสีแดง] เปลี่ยนเป็นเทรนด์ลงครั้งใหญ่ สร้างความสิ้นหวังเสมอ
• [กรอบสีน้ำเงิน 1] จบเทรนด์ลงและก่อตัวไซด์เวย์ ตลาดไร้ปริมาณการซื้อขาย เพราะยังหวาดกลัวจากเหตุการณ์ลงครั้งที่ผ่านมา
• [กรอบสีเขียว 2] ปรับฐานเสร็จสิ้น และหนีจากจุดต่ำสุดเพื่อไม่ให้นักลงทุนรายย่อยได้ซื้อ
• [กรอบสีน้ำเงิน 2] ไซด์เวย์ลงแต่มีปริมาณการซื้อขายที่มากขึ้น
• [กรอบสีเขียว 1] วนกลับมา เตรียมเข้าสู่ช่วง Halving [เส้นแนวตั้งสีน้ำเงิน]  และเป็นเทรนด์ขึ้นใหญ่อีกครั้ง

วิเคราะห์ให้มีประสิทธิภาพ: ควรเข้าใจ Psychology of market Cycle หรือจิตวิทยาของตลาดระดับหนึ่ง เพื่อเข้าใจว่า ณ ขณะนั้นอารมณ์ของนักลงทุนอยู่ในสภาวะใด ซึ่งจะสอดคล้องกับกรอบสีต่าง ๆ และช่วยให้เราเข้าใจมากขึ้นว่าช่วงไหนควรเข้าช่วงไหนควรออกจากตลาด

2. การปรับอัตราดอกเบี้ยของ FED (ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา) มักมีผลกับสินทรัพย์ที่ขึ้นชื่อว่า “สินทรัพย์ปลอดภัย” เช่น ทองคำและบิตคอยน์ โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเป็นเชิงบวกสำหรับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและเป็นผลลบกับบิตคอยน์ ขณะที่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นเชิงลบสำหรับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและเป็นผลบวกกับบิตคอยน์

วิเคราะห์ให้มีประสิทธิภาพ: ควรติดตามแนวโน้มในการปรับอัตราดอกเบี้ยสม่ำเสมอ เนื่องจากนักลงทุนจะอ่านสถานการณ์ล่วงหน้าว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางดอกเบี้ยตอนไหนและจะเข้าซื้อ-ขาย ก่อนที่จะมีการปรับดอกเบี้ยจริงเช่น ในอีก 6 เดือนจากนี้ มีโอกาสสูงมากที่ FED จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยระยะยาว ดังนั้นนักลงทุนสาย Economic จะเข้าซื้อในช่วงนี้เลยและราคาจะเริ่มขึ้นต่อจากนี้ กว่าที่นักลงทุนทั่วไปจะรับรู้ราคาก็ปรับตัวขึ้นไปอีกระดับหนึ่งแล้ว

ตารางการประชุม FED ปี 2566-2567

*คริปโตเนียน หมายถึง ผู้ที่สนใจในสินทรัพย์ดิจิทัล