By Digital Trader • Publish in Crypto 101 • May 03,2021 • 3 min read
Ethereum คือ Altcoin ที่โด่งดังที่สุดตัวหนึ่งซึ่งถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2015 เป็นแพลตฟอร์ม Open-Sourced ที่รวมการพัฒนา Software และ Decentralized Mining Network ไว้ด้วยกันเพื่อใช้สำหรับสร้าง Decentralized Application ซึ่งเป็นระบบปฎิบัติการบนเทคโนโลยี Blockchain และเปิดโอกาสให้นักพัฒนาทุกคนสามารถทำงานโดยใช้ Smart Contract และ Decentralized Application ได้
ความเป็นมาของ Ethereum2.0
ในปัจจุบัน Ethereum ถือว่าเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ทำให้มีการพัฒนา Project หรือ Application ไว้จำนวนมาก แต่ตัวเวอร์ชั่นเดิมสามารถรองรับธุรกรรมได้เพียง 30 ธุรกรรมต่อวินาทีเท่านั้น ดังนั้นทางผู้สร้างอย่าง Vitalik Buterin จึงได้ประกาศอัพเกรด Ethereum 2.0 ขึ้นมา****
Ethereum 2.0 คืออะไร
Ethereum 2.0 หรือ Serenity เป็นการอัพเกรดจากเวอร์ชั่นเดิมโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มความเร็ว และความสามารถในการประมวลผลให้มากขึ้น รวมถึงลดการใช้พลังงานไฟฟ้าลง ซึ่งจะทำการเปลี่ยนระบบจาก Proof-of-Work มาเป็น Proof-of-Stake เเทน
Ethereum 2.0 ดีกว่าเวอร์ชั่นเดิมอย่างไร
แต่เดิม Ethereum 1.0 จะใช้ระบบการทำงานที่เรียกว่า Proof-of-Work (PoW) เพื่อทำการตรวจสอบความสมบูรณ์ นั่นหมายความว่าจำเป็นจะต้องให้สมาชิกใน Blockchain ช่วยในการดำเนินธุรกรรมอย่างปลอดภัย โดยผ่านการประมวลผลของ Hardware เพื่อแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ซึ่งสมาชิกคนแรกที่แก้โจทย์นี้ได้ จะได้รับ Reward เป็น Ethereum หรือที่เราเรียกกันว่าการขุดเหรียญนั่นเอง แต่ PoW เป็นกระบวนการที่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้ามาก ถือเป็นการสิ้นเปลืองพลังงาน ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของการอัพเกรดเวอร์ชั่นเป็น Ethereum 2.0
หลักการทำงานของ Ethereum 2.0
Ethereum 2.0 จะเปลี่ยนมาใช้ระบบการทำงานที่เรียกว่า Proof-of-Stake (PoS) ซึ่งใช้พลังงานน้อยกว่า โดยผู้ที่ขุด Ethereum จะเป็น Validator แทน โดยทำการ Stake Crypto เพื่อใช้สิทธิ์ในการตรวจสอบการทำธุรกรรม โดยพิจารณาจากจำนวนเงินที่มี หากถือเหรียญจำนวนมากก็มีโอกาสสูงที่จะได้เป็น Validator เพื่อสร้าง Block ที่มากกว่า เมื่อ Validator ทั้งหลายตรวจสอบธุรกรรมได้ตรงกันแล้วก็จะทำการเพิ่ม Block ลงใน Blockchain และจะได้รับ Reward ไป
โดยการทำ PoS นั้น จะต้องนำเหรียญดิจิทัลเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของระบบ เพื่อเป็นสินทรัพย์ในการค้ำประกัน ซึ่งหากผู้ที่ทำการ Stake สร้างความเสียหายให้ระบบก็จะโดนยึดเหรียญที่วางค้ำประกันเอาไว้นั่นเอง
Ethereum 2.0 การพัฒนาที่เกินคาด
Ethereum 2.0 เวอร์ชั่นสมบูรณ์จะมีความสามารถในการรองรับธุรกรรมมากถึง 100,000 ธุรกรรมต่อวินาที ซึ่งทำได้มากกว่าที่ Ethereum 1.0 ทำได้เกิน 3,000 เท่า! (Ethereum 1.0 รองรับได้เพียง 30 ธุรกรรมต่อวินาที)
และอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่สำคัญของ Ethereum 2.0 คือ Sharding ที่จะมาเพิ่มความสามารถในการประมวลผล โดยหลักการคือการกระจายหน้าที่การรับรองออกไป ซึ่งการประมวลผลจะเกิดจากข้อมูลแต่ละส่วนที่ได้รับมาเท่านั้น ทำให้ระบบของ Ethereum 2.0 สามารถทำการประมวลผลแบบ Parallel ได้ นั่นหมายความว่าจะทำให้ความเร็วเพิ่มขึ้นนั่นเอง
อนาคตของ Ethereum 2.0
Ethereum 2.0 อาจส่งผลกับราคาในอนาคต เนื่องจากผู้ที่ต้องการเป็นผู้ตรวจสอบธุรกรรมจะทำการซื้อ Ethereum เพื่อเพิ่มจำนวนเหรียญ ในครอบครองให้มากขึ้น เพื่อให้ถึงขั้นต่ำในการได้รับพิจารณา (32 Ethereum) และอาจเป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ราคาของ Ethereum ในปัจจุบันพุ่งสูงขึ้นเกิน 1 แสนบาทเป็นที่เรียบร้อย
Content Creator
Digital Trader ผมวิเคราะห์ตามหลักสถิติประยุกต์ หลักการของแท่งเทียน และประสบการณ์ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา