By Digital Trader • Publish in Crypto 101 • Apr 05,2021 • 3 min read
ระบบการเงินในปัจจุบันอยู่ในรูปแบบของ Centralized Finance หรือระบบการเงินแบบมีศูนย์กลาง นั่นก็คือ ธนาคารจะเป็นผู้แจกธนบัตรเพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการเเลกเปลี่ยน ดังนั้นธนาคารจึงถือได้ว่าเป็นตัวกลางของการแลกเปลี่ยนในโลกการเงิน จนกระทั่งเกิดเทคโนโลยี Blockchain ขึ้นมา นักพัฒนาจึงมองว่า Blockchain จะเข้ามาช่วยตัดตัวกลางทางเงินนี้ออกไปได้ จึงได้เกิดเป็นสิ่งที่เรียกว่า Decentralized Finance หรือ DeFi ขึ้นมา
แล้ว DeFi คืออะไรกันแน่?
Decentralized Finance หรือ DeFi คือ แนวคิดทางการเงินรูปแบบใหม่ที่นำเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาเป็นเครื่องมือช่วยบันทึก และทำธุรกรรมแทนตัวกลาง อย่างเช่น สถาบันการเงิน หรือสถานที่แลกเปลี่ยนเงินต่างๆ ทำให้เพิ่มความรวดเร็ว ลดขั้นตอนในการดำเนินการ และลดต้นทุนลงไปได้อย่างมหาศาล
หน้าที่หลักของ DeFi คือ ทำหน้าที่คล้ายธนาคาร สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบทั้งบัญชีเงินฝาก การโอนเงิน การชำระเงิน การให้กู้เงินระหว่างรายย่อย หรือการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ โดยในทุกธุรกรรมจะผ่านการยืนยันความถูกต้อง มีการป้องกันในระดับสูงผ่านการเข้ารหัส และการนำไปใช้ประโยชน์ได้มากที่สุด ในระบบ DeFi คือ ทุกคนมีสิทธิ์ทำธุรกรรมระหว่างกันได้ด้วยตนเองโดยไม่จำเป็นต้องมีตัวกลาง
ความสามารถของ DeFi คือ อะไร?
การกู้ยืมบน DeFi
เป็นการนำสินทรัพย์ดิจิทัลที่เราไม่ได้ใช้ประโยชน์ เก็บไว้เฉยๆ มาเข้าระบบ DeFi ใส่ไว้ใน Pool กลาง เพื่อให้ผู้ที่ต้องการกู้สินทรัพย์ สามารถกู้ยืมไปใช้ประโยชน์ได้ โดยไม่ต้องผ่านตัวกลางใดๆ ซึ่งผู้กู้จะได้ประโยชน์ จากดอกเบี้ยที่ถูกลงกว่าการมีตัวกลาง เนื่องจากไม่จำเป็นต้องหักค่าใช้จ่าย หรือค่าดำเนินการใดๆ จากตัวกลาง
Decentralized Exchange
ต้องบอกก่อนว่า Exchange ส่วนใหญ่นั้นยังมีความเป็น Centralized อยู่ แต่ด้วยระบบ DeFi คือ จะสามารถทำการแลกเปลี่ยนโดยไม่มีตัวกลาง และแลกเปลี่ยนได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องรู้ว่าเป็นใคร ซึ่งจะช่วยลดค่าธรรมเนียมได้นั่นเอง ที่แตกต่างอีกอย่างคือไม่จำเป็นต้องทำ KYC
ประโยชน์ของโลก DeFi
ต้นทุนในการทำธุรกรรมต่ำ ผลตอบแทนที่สูง
เมื่อทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบ DeFi คือ ไม่จำเป็นต้องใช้ตัวกลางอย่างสถาบันการเงิน ทำให้สามารถลดต้นทุนลงไปได้มาก โดยเฉพาะค่าธรรมเนียมที่ต่ำ รวมถึงยังให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยที่สูงกว่าสถาบันการเงินในปัจจุบัน เพราะไม่ถูกตัวกลางอย่างสถาบันการเงินหักไป
ไม่มีขีดจำกัดสามารถขยายไปทั่วโลก
การทำธุรกรรมทางการเงินเมื่อต้องผ่านตัวกลางอย่างสถาบันการเงิน จะทำให้การทำธุรกรรมต่างๆ ต้องอยู่บนเครือข่ายของสถาบันการเงินนั้นๆ นั่นหมายความว่าเราอาจจะถูกจำกัดอยู่แค่ในประเทศ หรือในทวีปเท่านั้น แต่เมื่อเป็นโลกของ DeFi ที่โดยพื้นฐานเป็นเทคโนโลยีดิจิทัลแล้ว ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมกับระบบการทำงานได้ทั่วโลกนั่นเอง
ความเสี่ยงบนโลก DeFi
สิ่งที่เราสามารถกำจัดออกไปได้คือตัวกลาง แต่ความเสี่ยงก็มาในรูปแบบของตัวโปรแกรม ที่หากนักพัฒนาทำการสร้างแล้วเกิดมีช่องโหว่ขึ้นมา อาจเป็นสาเหตุให้นักโจรกรรมบนโลกไซเบอร์ทำการโจมตีช่องโหว่นั้นได้ จึงมีความเป็นไปได้ที่สินทรัพย์ของคุณอาจถูกขโมยไป ดังนั้น ก่อนที่จะทำธุรกรรมผ่านระบบ DeFi คือ ทุกๆ คนจะต้องมีความละเอียดรอบคอบ และเลือกทำธุรกรรมกับระบบที่มีความน่าเชื่อถือ และวางใจได้
ในปัจจุบันมูลค่ารวมบนโลก DeFi สูงกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ และเทคโนโลยี DeFi ยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ในอีกหลากหลายรูปแบบ เช่น การปล่อยกู้ในสมัยก่อนยังถูกผูกขาดโดยสถาบันการเงิน แต่ปัจจุบันสามารถทำได้อย่างง่ายดายในโลกของ DeFi และเชื่อว่าในอนาคตจะมีการพัฒนาความสามารถในด้านการเงินเพิ่มเติมอีกมากอย่างแน่นอน และเราหวังว่าเมื่อคุณได้ทำความเข้าใจว่า DeFi คืออะไรแล้ว จะสามารถนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในการลงทุนกันได้บ้างไม่มากก็น้อย
Next article
Content Creator
Digital Trader ผมวิเคราะห์ตามหลักสถิติประยุกต์ หลักการของแท่งเทียน และประสบการณ์ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา