Cryptocurrency ของคนไทย

By Digital Trader • Publish in Crypto 101 • May 17,2021 • 3 min read

ทำความรู้จัก Cryptocurrency ของคนไทยที่ดังไกลระดับโลก

รู้กันหรือไม่ว่าคริปโตที่เราเทรดกันอยู่ในทุกวันนี้มี Cryptocurrency ของคนไทย แอบซ่อนอยู่ด้วย แถมยังเป็นคริปโตชื่อดังระดับโลกอีกต่างหาก แต่จะมีตัวไหนบ้าง และจะมีความน่าสนใจ น่าลงทุนอย่างไรมาทำความรู้จัก Cryptocurrency ของคนไทย ที่ดังไกลระดับโลกกันได้เลย

Firo (XZC)

Cryptocurrency ของคนไทย ที่มีคุณสมบัติที่โดดเด่น คือถูกสร้างมาเพื่อมุ่งเน้นที่ความเป็นส่วนตัวของการใช้งานเป็นหลัก เนื่องจากเป็นเหรียญ Privacy Coin ที่ได้รับการยอมรับว่ามีความ Privacy สูง มีระบบที่ปกปิดเส้นทางการโอนได้อย่างยอดเยี่ยม จึงเหมาะกับธุรกรรมที่ผู้เกี่ยวข้องไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน

แต่เดิม Firo (XZC) มีชื่อว่า Zcoin แต่ได้ทำการรีแบรนด์เนื่องจากมีนักลงทุนหลายคนสับสนกับเหรียญอย่าง Zcash (Monero) และล่าสุดได้มีการเปิดใช้งานตัวอัพเกรดความเป็นส่วนตัวอย่าง Lelantus เพื่อก้าวข้ามข้อจำกัดของระบบเดิมๆ อย่างฟีเจอร์พิเศษของ Lelantus คือการตัด Trusted Setup ออกไป

Trusted Setup เป็นการสร้างชุดตัวเลขจำนวนหนึ่งขึ้นมา เพื่อมอบให้กับคนที่เชื่อใจได้เป็นคนถือ และทำลายทิ้ง ซึ่งการที่มี Trusted Setup อยู่นั้นเราไม่สามารถแน่ใจได้ว่าคนที่ถือตัวเลขชุดนั้นสามารถไว้ใจได้จริงหรือไม่ จึงได้มีการตัดฟีเจอร์นี้ของ Lelantus ทิ้งไป เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับ Firo (XZC) ว่าเป็นเหรียญที่มีความเป็น Privacy สูง

หนึ่งใน Cryptocurrency ของคนไทย ที่ผู้ก่อตั้งคือคุณหนึ่ง ปรมินทร์ อินโสม ผู้ก่อตั้งและกรรมการ บริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด นั่นเอง ผู้ซึ่งจบปริญญาตรีคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หลังจากเรียนจบได้ทำงานที่บริษัท Microsoft ประเทศไทย แล้วเดินทางไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่ Johns Hopkins University ซึ่งถือเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังในด้าน Cybersecurity ชั้นนำของโลก จึงไม่แปลกใจว่าทำไมเขาถึงเป็นเจ้าของ Privacy Coin จริงไหม

OmiseGo (OMG)

OmiseGo เป็น Cryptocurrency ของคนไทย ที่เริ่มต้นด้วยการเป็นผู้ให้บริการด้าน Payment Gateway และถือว่าเป็นสตาร์ทอัพดาวรุ่ง ที่ระดมเงินทุนได้ถึง 25 ล้านดอลลาร์ในปี 2016 เป้าหมายของ OmiseGo คือเข้ามาตัดตัวกลางออกจากโลกการเงิน โดยให้บริการอีกรูปแบบคือ Payment Services ที่ให้บริการทั้งเงินดิจิทัลและเงินกระดาษทั่วไป รวมทั้งยังได้ Vitalik Buterin ผู้สร้าง Ethereum มาเป็นที่ปรึกษาอีกด้วย

และภายหลังเหรียญ OmiseGo ได้ขยายรูปแบบการให้บริการมาเป็น Exchange โดยเล็งเห็นปัญหาเนื่องจากผู้คนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่สามารถทำธุรกรรมผ่านธนาคารระหว่างกันได้อย่างสะดวก OmiseGO จึงเพิ่มผลิตภัณฑ์อีกหนึ่งชนิดคือ Decentralized Exchange (พร้อม E-Wallet) โดยแก้ปัญหาเรื่องนี้ เพื่อให้คนในภูมิภาคสามารถโอนเงินในรูปแบบของ Peer-to-Peer ได้ ซึ่งความพิเศษของ Omise คือเมื่อมีผลิตภัณฑ์ทั้งสองชนิดอย่าง Decentralized Exchange และ Digital Wallet ทำให้เกิด Ecosystem ที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก

โดยผู้ก่อตั้งคือคุณ อิศราดร หะริณสุต จบปริญญาตรีสาขาการตลาด หลักสูตรนานาชาติ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ หลังจากนั้นได้เริ่มทำงานที่บริษัท Alpha-do Inc. ประเทศญี่ปุ่นในตำแหน่ง International Trading Manager หลังจากนั้นได้ก่อตั้งบริษัท Omise และเหรียญ OmiseGo (OMG) ร่วมกันกับ Jun Hasegawa เพื่อนชาวญี่ปุ่น

Band Protocol (BAND)

หลายคนอาจคุ้นหู แต่อาจไม่รู้ว่า Band Protocol เป็น Cryptocurrency ของคนไทย ที่มีลักษณะเป็น Data Oracle หรือ ตัวกลางที่ทำหน้าที่คอยดึงข้อมูลต่างๆ ที่อยู่ในโลกของความเป็นจริง เข้ามาเก็บอยู่ใน Blockchain Application เพื่อช่วยให้ Smart Contract ขององค์กรต่างๆ สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ต่อได้นั่นเอง

เปรียบเทียบง่ายๆ คือเป็นตัวเชื่อมระหว่างโลกของความเป็นจริงกับโลกของ Blockchain โดยได้ทำการสร้างเครือข่าย Decentralized ขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนช่วยกันดึงข้อมูลเพื่อตรวจสอบว่าธุรกรรม หรือข้อมูลจากภายนอกเหล่านั้นถูกต้องหรือไม่ ตัวอย่างเช่นราคาหุ้น หรือสินทรัพย์อื่นๆ โดยระบบจะเป็นผู้ดึงข้อมูลเหล่านี้เพื่อให้ Blockchain Application ได้นำไปใช้

ผู้ก่อตั้งคือคุณสรวิศ ศรีนวกุล จบปริญญาตรีด้าน Computer Science และปริญญาโทด้าน Management Science and Engineering จากมหาวิทยาลัย Stanford และเคยทำงานเป็นที่ปรึกษาอยู่ที่ Boston Consulting Group ก่อนจะออกมาก่อตั้งโปรเจคนี้ขึ้น

Alpha Finance Lab (ALPHA)

อีกหนึ่งใน Cryptocurrency ของคนไทยคือ Alpha Finance Lab ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ด้านการเงินซึ่งบริษัทนำระบบ Blockchain มาพัฒนาร่วมด้วยจุดประสงค์หลักของโครงการ คือเพิ่มให้ผลตอบแทนสูงที่สุด ในขณะเดียวกันก็ลดความเสี่ยงให้กับนักลงทุนไปด้วยในตัว Alpha Finance Lab นั้นสามารถทำงานได้ทั้ง Ethereum และ Binance Smart Chain ซึ่งจะเรียกรูปแบบ DeFi ชนิดนี้ว่า Cross-Chain (คือทำงานได้ทั้งสอง Chain) โดยผลิตภัณฑ์ของ Alpha Finance Lab จะประกอบด้วย Alpha Homora, AlphaX และ Alpha Asgardian

ความสามารถพิเศษของตัวเหรียญ ALPHA คือผู้ที่ถือเหรียญนั้นสามารถทำการ Staking (นำเหรียญไปล็อคบนแพลตฟอร์มเพื่อยืนยันธุรกรรม หรือปล่อยกู้) และรับค่าธรรมเนียมใน Pool นั้น ซึ่งเหรียญนั้นยังสามารถนำไปใช้ลงคะแนนเพื่อโหวตข้อเสนอจากผู้ใช้คนอื่นๆได้ด้วย

ทีมผู้สร้างประกอบด้วย คุณ ทชา ปัญญาเนรมิตดี เป็นทีมกลยุทธ์จากทีมของ Band Protocol และคุณ นิปุณ ปิติมานะอารี จบการศึกษาสาขา Mathematics & Computer Science จาก MIT ทำหน้าที่เป็น Lead Engineer และ Blockchain Researcher ทั้งนี้ Alpha Finance Lab ได้รับความร่วมมือจาก SCB 10x เป็นหน่วยงานด้านการลงทุนของธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อช่วยให้ Alpha สามารถขยาย Ecosystem ของ DeFi เพื่อเชื่อมโลกการเงินแบบเดิมให้เข้ากับโลกของ Blockchain ได้

Cryptocurrency ของคนไทยทั้งหมดที่กล่าวมานั้น ถูกสร้างขึ้น และได้รับการยอมรับจากต่างชาติเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นชื่อที่คุ้นหู เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี โดยความสามารถของ Cryptocurrency ชนิดต่างๆ ที่กล่าวมา สักวันหนึ่งอาจจะสามารถเข้ามาแทนที่ระบบการเงินแบบเก่าก็เป็นได้ และถือเป็นโอกาสที่ดีที่คนไทยได้เป็นเจ้าของนวัตกรรมเหล่านั้น ไม่แน่วันหนึ่งในอนาคต คนไทยอาจเป็นเจ้าของนวัตกรรมระดับโลกที่เข้ามา Disrupt โลกของการเงินก็ได้ ซึ่งคนไทยของเราจะสามารถสร้างเหรียญอื่นๆ ขึ้นมา หรือพัฒนาเหรียญเดิมให้น่าสนใจ มีประโยชน์ยิ่งขึ้น จนสามารถถูกนำเอาไปใช้ได้หรือไม่ ก็ถือเป็นอีกเรื่องที่น่าติดตามไม่น้อย

Next article

Digital Trader

Content Creator

Digital Trader ผมวิเคราะห์ตามหลักสถิติประยุกต์ หลักการของแท่งเทียน และประสบการณ์ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา

Relate Post

Bitcoin Halving สิ่งที่นักลงทุนใน Bitcoin ทั้งหลายควรติดตาม
Crypto 101

Bitcoin Halving สิ่งที่นักลงทุนใน Bitcoin ทั้งหลายควรติดตาม

ก่อนที่เราจะเข้าใจว่า Bitcoin Halving คืออะไร เราต้องเข้าใจก่อนว่า Bitcoin นั้นมีจำนวนจำกัดอยู่ที่ 21 ล้าน Bitcoin เท่านั้น และไม่สามารถทำการเพิ่มขึ้นได้เนื่องจากโครงสร้างของตัวสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin ทั้งหมดถูกเข้ารหัสไว้อย่างจำกัดเพียง 21 ล้าน Bitcoin เท่านั้น ซึ่งการที่จะได้ Bitcoin มาครอบครองนั้นจะต้องผ่านกระบวนการที่เรียกว่าการขุด (Mining) โดยนักขุด Bitcoin ที่ค้นพบบล็อกใหม่สำเร็จเป็นคนแรกก็จะได้ Reward (รางวัล) เป็น Bitcoin นั่นเอง

Digital Trader

Mar 08,2021

3 min

เเนวรับเเนวต้าน เทคนิคพื้นฐานของการเทรดคริปโต
Trading Guide

เเนวรับเเนวต้าน เทคนิคพื้นฐานของการเทรดคริปโต

เเนวรับ เเนวต้าน เป็นหนึ่งในการวิเคราะห์กราฟเทคนิค ที่เทรดเดอร์นิยมใช้กันมากที่สุดเครื่องมือหนึ่ง ซึ่งเราสามารถใช้เทคนิค เเนวรับ เเนวต้าน นี้ในการเทรดคริปโต หรือเทรด Bitcoin ได้ด้วย

Digital Trader

Apr 09,2021

3 min